
ผู้สูงอายุที่ต้องอยู่บ้านตามลำพัง ในช่วงเวลาที่ลูกหลานไปโรงเรียนและทำงานนอกบ้าน ยิ่งสังคมปัจจุบัน หลายคู่ที่ไม่มีบุตร หรือเป็นคนโสด พอถึงวัยเกษียณ วัยชรา ก็อาจต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง ผู้สูงอายุหลายคนมีความสุขและเลือกที่จะอยู่ในบ้านตนเองในบั้นปลาย ไม่อยู่บ้านพักคนชรา หรือโรงพยาบาล แต่ด้วยร่างกายที่เสื่อมลง การใช้ชีวิตก็จะไม่คล่องตัวเหมือนแต่ก่อน ดังนั้นการปรับปรุงบ้านให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ ญาติผู้ใหญ่ หรือตัวเราเองเมื่อยามแก่ชรา จึงเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อให้อยู่ในบ้านได้อย่างมีความสุข สะดวก และปลอดภัย ด้วยเทคนิคง่ายๆ ที่นำมาฝากกันดังนี้
1. เปิดปิดง่ายและจับถนัดมือ
การเปิดประตูเข้าออกเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่ตลอดทุกวัน สำหรับผู้สูงอายุการเปิดประตูลูกบิดจึงไม่ใช่เรื่องง่าย การเปลี่ยนมาใช้มือจับประตูก้านโยกเพื่อเปิดปิดประตู จะช่วยเพิ่มความสะดวกยิ่งกว่า เพราะมือจับประตูก้านโยกใช้แรงกดเพียงเล็กน้อยในการเปิดปิด และที่จับก็ถนัดมือ ช่วยให้การใช้ชีวิตประจำวันภายในบ้านของผู้สูงอายุสะดวกสบายมาก ขึ้น แม้กระทั่งก๊อกน้ำแบบหมุน ก็ควรเปลี่ยนมาเป็นแบบก้านยกขึ้นลง จะช่วยให้การใช้งานง่ายขึ้นด้วย นอกจากนี้รูปแบบและระดับที่เปิดปิดประตูของมือจับประตูก้านโยก ต้องอยู่ในความสูงและความลึกที่เข้าถึงง่าย ไม่เอื้อม ไม่เขย่ง เพื่อความสะดวกและความปลอดภัย
2. ปรับพื้นบ้านที่ให้ปลอดภัย
พื้นต้องไม่ลื่นเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ พื้นบ้านทุกพื้นที่ต้องป้องกันการลื่นได้ เช่น ถ้าปูพรมก็ควรมีวัสดุกันลื่นอยู่ใต้พรม หรือไม่มีพรมชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่เหยียบแล้วอาจลื่นหกล้มได้ พื้นภายนอกบ้านที่เป็นวัสดุผิวเรียบ เช่น พื้นปูกระเบื้อง หรือพื้นหินขัด เมื่อมีฝนสาดหรือคราบน้ำตกค้างที่พื้น เราอาจลืมตัวเดินไม่ระวังจนเกิดอันตรายได้ ซึ่งแก้ได้ทั้งการปรับเปลี่ยนผิวพื้น เพิ่มชายคากันฝน หรือหาของมาวางกันไม่ให้เดินได้เป็นต้น สำรวจระดับพื้นในจุดต่างๆ
ว่ามีจุดใดที่อาจจะทำให้สะดุดได้หรือไม่ หากจำเป็นต้องมีก็ควรจะมองเห็นได้ชัด ไม่มีสิ่งกีดขวางหรือบังตา บางบ้านที่มีการต่อเติมมาก่อน อาจมีพื้นยกระดับที่สูงเกินกว่าจะก้าวขึ้นได้ ก็ควรมีการปรับระดับความสูง โดยอาจเพิ่มเป็นขั้นแบ่งระดับที่ใหญ่พอประมาณ ซึ่งจะช่วยให้ผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องใช้ไม้เท้าเดินได้สะดวกขึ้น
3. บันไดที่ปลอดภัย
การขึ้นลงบันไดเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติในผู้สูงอายุได้ ราวบันไดต้องมีที่ยึดจับได้อย่างสะดวก แสงสว่างต้องเพียงพอมองเห็น ตั้งแต่ขั้นแรกจนถึงขั้นสุดท้าย มีสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าสุดขั้นบันได ซึ่งทั้งหมดสามารถช่วยลดอุบัติเหตุจากการตกบันไดได้
4. แสงสว่างที่เพียงพอ
พื้นที่มืดหรือแสงสว่างไม่เพียงพอทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย อาจเดินชน สะดุดล้มได้ นอกจากนี้แสงสว่างยังมีผลต่อการใช้สายตาในการอ่านหนังสือด้วย แสงสว่างที่ไม่เพียงพอจะมีผลเสียต่อสุขภาพสายตาและการมองเห็น ดังนั้นทุกห้อง ทุกพื้นที่ ต้องมีแสงสว่างให้เพียงพอ จากหลอดไฟ และแสงธรรมชาติ
5. มีพื้นที่วางสิ่งของ สำหรับผู้สูงอายุ
การพยายามควานหากุญแจ หรือไขกุญแจ เพื่อจะเปิดประตูเข้าบ้าน หยิบจดหมายหรือถือพัสดุไว้ในมือ แล้วพยายามจะเปิดปิดประตู ก็สามารถทำให้เสีย การทรงตัวได้ง่ายๆ ดังนั้นการมีพื้นที่วางของหรือพื้นที่ให้นั่ง เช่นโต๊ะ ม้านั่ง ที่สามารถวางสิ่งของในขณะที่จะเปิดปิดประตูเข้าบ้านได้ หรือนั่งเพื่อหาของก็จะช่วยเพิ่มความสะดวกและลดอุบัติเหตุได้เช่นกัน
6. ห้องน้ำที่เป็นมิตร
ห้องน้ำที่ปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ ควรเพิ่มราวจับบริเวณใกล้โถส้วม อ่างอาบน้ำไม่เหมาะกับผู้สูงอายุที่ต้องก้าวเข้าออก ควรใช้ฝักบัวแบบมือจับจะง่ายต่อการใช้งาน มากกว่าฝักบัวแบบยึดติดกับที่ ก๊อกน้ำที่เปิดปิดง่ายจับถนัด จะสะดวกกว่าแบบหมุนที่อาจลำบากเวลามือลื่นจากสบู่ การกั้นพื้นที่เปียกกับพื้นที่แห้งด้วยผ้าม่าน จะดีกว่าแบบกระจกที่ต้องเปิดหรือเลื่อนออก พื้นที่อาบน้ำที่ไม่กั้นแยกส่วน จะช่วยให้การใช้งานง่ายและปลอดภัยขึ้น ควรเพิ่มส่วนที่สามารถนั่งได้ หรือมีเก้าอี้นั่งในห้องน้ำ
Comments